Xiaomi Mi 11 เปิดตัวเป็นทางการแล้ววันนี้

Xiaomi Mi 11 เปิดตัวเป็นทางการแล้ววันนี้

Xiaomi Mi 11 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เช็กสเปคตัวเครื่อง, วันจัดจำหน่าย, ราคา และอนาคตของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาอยู่เรื่อย ๆ ในที่สุดก็ทำการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียทีกับ Xiaomi Mi 11 สมาร์โฟนเรือธง (ตัวหลัก) ที่จะทำการวางขายตอนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยในการเปิดตัวนี้ก็เป็นการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของโทรศัพท์เครื่องนี้ ทั้งรายละเอียดสเปคตัวเครื่อง, วันจัดจำหน่าย, ราคา และอนาคตของตัวเครื่องรุ่นถัดไป

โดยรายละเอียดสเปคอย่างเป็นทางการของ Mi 11 นั้นก็มีดังนี้

หน้าจอประเภท OLED ขนาดหน้าจอ 6.81 นิ้ว มีความละเอียดหน้าจอขนาด 3200 x 1440 และอัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 120Hz

มีตัวเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างหลังหน้าจอ

กล้องด้านหลัง 3 ตัว : เซนเซอร์กล้องหลัก ขนาดความคมชัด 108 megapixel , เลนส์เทเลโฟโต้/เลนส์ยาว ขนาด 5 megapixel และเลนส์ ultra-wide ขนาด 13 megapixel

รองรับการชาร์จแบตเตอรรี่แบบไร้สาย 50W พ่วงด้วยแบตเตอรรี่ควาจุไฟฟ้า 4600mAh

ใช้งานชิปประมวลผล Snapdragon 888 และ RAM ที่มีให้ในขนาด 8GB – 12GB ตามมาด้วยหน่วยความจำขนาด 128GB – 256GB

รองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi 6

และเป็นที่ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการให้ที่ชาร์จ หรือหัวชาร์จมาด้วย เนื่องด้วยเหตุผลทางด้านสภาพแวดล้อม และลดต้นทุน

ซึ่ง Mi11 จะมาในสนนราคาตามแต่ประเภท ได้แก่

8GB + 128GB – 3999 หยวน / 18,400+ บาท

12GB + 128GB –  4299 หยวน / 19,800+ บาท

12 GB + 256GB – 4699 หยวน / 21,600+ บาท

และมีสีของตัวเครื่องให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Midnight Gray, Horizon Blue และ Frost White

ตัวเครื่องจะเปิดให้ทำการจองได้ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 และจะเริ่มทำการส่งมอบให้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ทั้งนี้แล้วสำหรับรายละเอียดของตัวเครื่อง Mi11 ในรุ่นอื่น ๆ นั้นจะตามมาในภายหลัง

มีข่าวหลุดออกมาเป็นที่เรียบร้อย ในคราวนี้นั้นมาแบบยกแผงและเจาะลึกไปกับ สเปค ของ Samsung Galaxy S21 ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มกราคม ปีหน้านี้ ยังคงมีการหลุดอย่างต่อเนื่องสำหรับทาง Samsung Galaxy S21 หลังจากที่ได้มีการหลุดมาอยู่เรื่อย ๆ ในหลายภาคส่วนของสมาร์ทโฟนยอดนิยมของค่ายรุ่นนี้ ในคราวนี้นั้นก็เป็น สเปค ของตัวเครื่องโดยละเอียด ไม่มีมาเพียงบางส่วนอีกต่อไป

ในส่วนของสีนั้นทาง S21 ตัวพื้นฐานจะมีสีให้เลือก 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Gray, white, pink, purple และทาง S21+ นั้นจะมีดังนี้ Silver, black, purple

ทางด้านของราคานั้น ก็ได้มีการประมาณการณ์ว่าราคาขั้นต่ำจะอยู่ที่ S21 : 849 ยูโร / 31,235 บาท และ S21+ : 1049 ยูโร / 38,584 บาท

ทั้งนี้แล้วก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องมาดูว่าในการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มกราคม 2564 นั้น จะออกมาตรงตามโพยมากแค่ไหนกันแน่

DES เปิดสถิติ 10 ข่าวปลอม ที่มีการแชร์มากสุดประจำปี 63

กระทรวงดิจิทัลฯ ( DES ) ได้เปิดเผย 10 อันดับ ข่าวปลอม ที่ถูกนำมาแชร์ซ้ำมากที่สุดในรอบปี 63 หมวดสุขภาพครองแชมป์ 3 อันดับแรก ขณะนี้สัดส่วนข่าวปลอม ข่าวจริง และข่าวบิดเบือนบนเครือข่ายโซเชียล อยู่ในสัดส่วน 7:2:1

นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส/ DES ) ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้าน ข่าวปลอม ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันตน์ รมว.ดีอีเอส ในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม

โดยมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เป็นกลไกสำคัญ และถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล มุ่งเน้นการจัดการข้อมูลที่เป็นเท็จทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายกับประชาชนและสาธารณชนในวงกว้าง ล่าสุดศูนย์ฯ ได้รวบรวมข้อมูลจัดอันดับ 10 ข่าวปลอมที่มีการนำมาแชร์ซ้ำบ่อยสุดในรอบปี 2563

ซึ่งก็พบว่าสัดส่วนหลักอยู่ในหมวดสุขภาพ รวมทั้ง 3 อันดันแรก ได้แก่

อันดับ 1 ดื่มสไปรท์ใส่เกลือ แก้ท่องร่วง ท้องเสียได้

อันดับ 2 คลอรีนในน้ำประปาเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งเมื่อถูกความร้อน

อันดับ 3 ใส่ผ้าอนามัยนาน ทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก

อันดับ 4 งดใช้ตู้ ATM ที่ไม่มีไฟกระพริบตรงที่เสียบบัตร

อันดับ 5 น้ำมันเบนซินมีสารระเหยดูดพิษจากแมลงกัดต่อยหายใน 3-5 นาที

อันดับ 6 จัดตั้งจังหวัดในประเทศไทยเพิ่ม รวมเป็น 83 จังหวัด

อันดับ 7 ผู้ประกอบการที่ใช้ตราฮาลาลบนสินค้า ไม่ต้องเสียภาษี

อันดับ 8 มหัศจรรย์น้ำปัสสาวะ รักษาโรคแก้ปวดเมื่อย ช่วยให้ตาใสมองเห็นชัด

อันดับ 9 บริษัทชื่อดังฉลองวันพิเศษ แจกบัตรกำนัล สินค้า และรางวัลต่างๆ และ

อันดับ 10 กรอกแบบสอบถามจากหน่วยงานของรัฐลุ้นรับของรางวัลฟรี

นายภุชพงค์ ได้กล่าวไว้ว่า “จากข้อมูลที่รวบรวมได้ สอดคล้องกับภาพรวมของจำนวนข่าวที่ผ่านการคัดกรองเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบในปีนี้ที่มีทั้งหมดกว่า 7 พันเรื่อง ในจำนวนนี้อยู่ในหมวดสุขภาพถึง 56% หรือกว่า 4 พันเรื่อง”

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น