วันที่ 18มิ.ย.61 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา เซ็กซี่บาคาร่า หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ประจำเกาะไม้ไผ่ และตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ ได้ปักธงแดง เตือนนักท่องเที่ยว ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ห้ามลงเล่นน้ำทะเล เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้เกิดคลื่นลมแรง อีกระลอก ประกอบกับ น้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้คลื่นซัด น้ำทะเลเอ่อท่วมบริเวณพื้นที่ เกาะไม้ ไผ่ ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีนักเที่ยว
ขณะที่พายุพัดแรง ทำให้บ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายหลายแห่ง
เช่น พื้นที่ม.2 ตำบลลำทับ อ.ลำทับ ได้เกิดพายุฝนถล่ม บ้านของนาย เจี้ยม ธรารักษ์ อายุ 78 ปีและยายสุ้น ธรารักษ์ อายุ 78 ปี เลขที่ 5/1ม.2ต.ลำทับ อ.ลำทับ ต้นหมากสูงกว่า 20 เมตร ล้มทับหลังค้าบ้าน ส่งผลให้กระเบื้อง เสียหายไปกว่า 20 แผ่น โดยยายสุ้น เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตน กำลังคั่วลูกกออยู่ ในห้องครัว จู่ ได้มีต้นหมาก ล้มทับหลังคาตรงศีรษะตนพอดี กระเบื้องแตก กระจัดกระจาย เฉี่ยวหัวตนไปนิดเดียว
สำหรับพายุพัดครั้งนี้ เฉพาะในพื้นที่ ม.2ต.ลำทับ เสียหายไปเกือบ 10 หลัง นอกจากนี้ ในพื้นที่ ม. 5. ต. อ่าวลึกเหนือ อ. อ่าวลึก จ. กระบี่ ได้เกิดต้นไม้ล้มทับ บ้านเรือนประชนได้รับความเสียหายอีก 1หลัง บ้านเลขที่ 88 ม. 5. ต. อ่าวลึกเหนือ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ขณะที่กระชังปลาชาวบ้านในพื้นที่บ้านแหลมสัก อ.อ่าวลึก ได้รับความเสียหาย 1 ราย เจ้าหน้าที่เตรียมสำรวจความเสียหาย
ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ รปภ..ถูกทำร้าย เกิดเวลา 05.00 น.วันที่ 15 ม.ค.ขณะเกิด รปภ.กำลังปฏิบัติหน้าที่ จู่ๆ ได้มีรถเบนซ์เปิดประทุนขับเข้ามาด้านทางเข้าโรงแรม ไม่มีไม้กั้น มาจอดที่หน้าล็อบบี้ จากนั้น หัวหน้า รปภ. ได้สอบถามว่าได้แลกบัตรเข้ามาหรือไม่ และ ให้กลับไปรับบัตรด้วย จากนั้นคนขับรถเบนซ์ก็เกิดอารมณ์หงุดหงิด แล้วรีบขับรถออกมาฝั่งทางออก
เจ้าหน้าที่ รปภ.ที่บริเวณทางออก ได้เข้าไปตักเตือน เลยโดนคนขับกระชากคอเสื้อลากไปที่ประตูด้านฝั่งตรงข้ามคนขับ ก่อนที่จะต่อยและเตะ จนสลบไปโดยคนที่ถูกทำร้ายร่างกายมีอาการ กรามหัก จมูกหัก ส่วนคนก่อเหตุ ได้กลับขึ้นรถ พร้อมกับชายชาวต่างชาติและขับรถออกไปทันที
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลกแต่เป็นที่น่าตกใจว่าประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีการทิ้งขยะลงสู่ทะเลเป็นอันดับที่ 5ของโลก โดยพบว่าขยะร้อยละ 80 มาจากบนบกซึ่งส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติกขวดน้ำและเศษอาหาร อันนำไปสู่ผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก
ภูเก็ตได้รับผลกระทบจากการที่ต้นไม้ล้มทับบ้านประมาณ 90 หลังคาเรือน
วันนี้ (18มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้มีฝนตกและลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 อำเภอ ซึ่งได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง โดยทั้ง 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ และอ.ถลาง ได้มีต้นไม้ล้มขวางถนน และมีต้นไม้ทับหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย และบางส่วนถูกลมพัดหลังคาบ้านหลุด แต่ขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย
นอกจากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ได้รบแจ้งว่า มีเหตุเสาไฟฟ้าล้ม จำนวน 8 ต้น ขวางพื้นผิวถนนถนนเทพกระษัตรี บริเวณก่อนถึงโรงเรียนหงษ์หยกบำรุง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ปรีชา คงชู สวป.เวรด่านตรวจ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ และทหาร ร่วมกันลงพื้นที่อำนวยความสะดวกจราจร แต่เนื่องจากเดินรถใช้ได้เพียงหนึ่งช่องจราจร ทำให้รถติดขัด กำลังเร่งระบายรถ โดยได้ประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ถลางเดินทางมาตรวจสอบและมีการตัดไฟบางส่วน และจะเร่งเคลียร์เอาเสาไฟฟ้าออกจากผิวจราจรให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็จะเอาเสาไฟฟ้าใหม่ลงแทนเสาที่ล้มต่อไป
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศ เรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ) ฉบับที่ 27 (260/2561) โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 18- 20 มิถุนายน 2561 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณอ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ขึ้นมา มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัย บริเวณชายฝั่ง ของภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกขอให้ระวังอันตราย จากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย เนื่องจากลมมรสุมวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ตได้มีการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบางส่วนแล้ว และยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายทั้ง 3 อำเภอที่ได้รับความความเสียหาย มี 14 ตำบล 21 หมู่บ้าน 90 หลังคาเรือน มูลค่าความเสียหายประมาณ 273,500 บาท ส่วนใหญ่หลังคาบ้านแตก และมีรถจักรยานยนต์สามล้อพวง รถยนต์ส่วนบุคคล ได้รับความเสียหายเล็กน้อย และยังมีบางส่วนที่เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่สำรวจความเสียหายอยู่ เซ็กซี่บาคาร่า